5 วิธีเก็บรักษาไวน์อย่างถูกต้อง

วิธีเก็บรักษาไวน์

ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งไวน์ การเดินทางครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่การเลือกและการซื้อ ขวดแต่ละขวดที่คุณเลือกคือการลงทุนในรสชาติ กลิ่น และศักยภาพ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้คือวิธีการเก็บรักษาไวน์ เนื่องจากการเก็บรักษาที่ดีไม่ได้ทำแค่แช่เย็นในตู้แช่ไวน์เท่านั้น แต่การเก็บไวน์อย่างเหมาะสมถือเป็นศิลปะในตัวเอง ซึ่งต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ซึ่งบทความต่อไปนี้จะอธิบายหลักการพื้นฐานของการจัดเก็บไวน์ให้กระจ่างยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณรักษาคุณภาพของไวน์ขวดแต่ละขวดได้อย่างดีเยี่ยม

ที่เก็บไวน์คืออะไร?

โดยพื้นฐานแล้วการจัดเก็บไวน์คือการวางแผนตั้งแต่การซื้อจนถึงการบริโภค วัตถุประสงค์หลักของการเก็บไวน์คือเพื่อรักษาคุณภาพ รสชาติ และอายุยืนยาวของไวน์โดยการสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่สุด เมื่อจัดเก็บอย่างถูกต้อง ไวน์จะเข้มข้นขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ โซลูชันการจัดเก็บไวน์ที่มีจำหน่ายยังมีความหลากหลาย ตั้งแต่ชั้นวางไวน์ธรรมดาไปจนถึงห้องเก็บไวน์แบบควบคุมอุณหภูมิขั้นสูง ช่วยให้ผู้ชื่นชอบไวน์ราคาดีได้เลือกตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการได้ดีที่สุด

5 วิธีเก็บรักษาไวน์อย่างถูกต้อง

ปลดล็อกศักยภาพของไวน์ที่คุณชื่นชอบด้วยการจัดเก็บที่เหมาะสม โดยการควบคุมอุณหภูมิ แสง ความชื้น และตำแหน่งขวด 

1. อุณหภูมิในการเก็บรักษาไวน์

ความร้อนคือศัตรูอันดับหนึ่งสำหรับไวน์ราคาดี อุณหภูมิที่สูงกว่า 21 °C จะทำให้ไวน์เสื่อมคุณภาพได้ หรือหากเก็บในที่ร้อนกว่านี้มาก ก็จะส่งผลให้มีกลิ่นและรสชาติจางลงเช่นกัน ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือระหว่าง 7 °C ถึง 18 °C ขณะเดียวกันอุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้จุกไม้ก๊อกแห้งและปล่อยให้ออกซิเจนภายในขวดไวน์ ดังนั้นตู้เย็นจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บไวน์ในระยะยาว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรักษาอุณหภูมิให้สม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรงจะทำให้ของเหลวขยายตัวและหดตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดการซึมได้

  • อุณหภูมิที่ดีที่สุดในการเก็บไวน์แดงคือระหว่าง 10 ถึง 18°C แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 13°C เพราะจะช่วยรักษาคุณภาพและคุณลักษณะของไวน์ในขณะที่ปล่อยให้ไวน์บ่มอย่างเหมาะสม
  • อุณหภูมิที่ดีที่สุดในการเก็บไวน์ขาวคือระหว่าง 7°C ถึง 10°C อุณหภูมิที่เย็นนี้ช่วยรักษาความสดและความเป็นกรดของไวน์ อย่างไรก็ตาม ให้หลีกเลี่ยงการเก็บในตู้เย็นทั่วไป เพราะจะทำให้จุกก๊อกแห้งและปล่อยให้อากาศเข้าไปในขวดเป็นเวลานาน
  • อุณหภูมิที่ดีที่สุดในการเก็บสปาร์กลิ้งไวน์รวมถึงแชมเปญ ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่าไวน์ขาวเล็กน้อย เพื่อรักษาฟองอากาศ ความสด และความเป็นกรดของไวน์ ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือระหว่าง 4°C ถึง 10°C

2. แสงในการเก็บรักษาไวน์

วิธีเก็บรักษาไวน์ข้อต่อมาคือเรื่อง “แสง” เพราะแสงแดดสามารถก่อให้เกิดเอฟเฟคต่อไวน์ที่คุณเก็บไว้ได้ การได้รับรังสียูวีเป็นเวลานานอาจทำให้ไวน์เสื่อมคุณภาพและแก่ก่อนเวลาอันควร มักทำลายความสมดุลและทำให้รสชาติของไวน์เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรเก็บไวน์ให้พ้นจากแสงในระหว่างการเก็บรักษา เก็บไว้ในที่มืดและเย็น 

3. ความชื้นในการเก็บรักษาไวน์

ความชื้นมีบทบาทสำคัญในการจัดเก็บไวน์อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันไม่ให้จุกไม้ก๊อกแห้ง เพราะจุกไม้ก๊อกที่แห้งเกินไปอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งส่งผลเสียต่อคุณภาพและรสชาติของไวน์ ระดับความชื้นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเก็บไวน์โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 50-70% ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 60% หากระดับความชื้นลดลงต่ำเกินไป ไม้ก๊อกอาจแห้ง และทำให้อากาศเข้าไปในขวด ส่งผลให้ไวน์เน่าเสียได้ ในทางกลับกัน ระดับความชื้นที่สูงเกินไปอาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้

4. ตำแหน่งในการเก็บรักษาไวน์

เมื่อมองหาวิธีเก็บรักษาไวน์ที่บ้าน เคล็ดลับสำคัญประการหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการวางแนวขวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับไวน์ที่ปิดผนึกด้วยไม้ก๊อก ตำแหน่งในแนวนอนจะเหมาะสมมากที่สุด สาเหตุมาจาก เมื่อคุณเก็บไวน์ในแนวนอน ของเหลวที่อยู่ด้านในจะสัมผัสกับจุกไม้ก๊อกเสมอ ทำให้จุกไม้ไวน์ชุ่มชื้นและปิดผนึกได้ดี หากจุกก๊อกแห้ง อากาศอาจเข้าไปในขวด และอาจสร้างความเสียหายให้กับไวน์ได้ ในทางปฏิบัติแล้ว การเก็บไวน์แนวนอนยังช่วยประหยัดพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาไวน์

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยในวิธีเก็บรักษาไวน์ก็คือ ไวน์ทุกชนิดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าไวน์ทุกชนิดถูกกำหนดไว้สำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระยะเวลาในการจัดเก็บที่ต้องการและการเลือกวิธีการจัดเก็บที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไวน์ส่วนใหญ่ในตลาดผลิตขึ้นเพื่อให้ดื่มได้ไม่นานหลังจากการซื้อ ตัวอย่างเช่น ไวน์ราคาดีสีแดงที่มีแทนนินสูง โดยทั่วไปแล้วมักจะเก็บไว้ได้นานกว่าไวน์ขาวที่ละเอียดอ่อน เป็นต้น

  • ไวน์แดงมักมีอายุการเก็บรักษานานกว่าไวน์ขาว โดยไวน์ส่วนใหญ่มีอายุ 2-10 ปี อย่างไรก็ตาม ไวน์สีแดงคุณภาพสูงและไวน์รสหวานบางชนิดสามารถคงอยู่ได้หลายสิบปีเมื่อเก็บไว้ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม 
  • ไวน์ขาวสามารถเก็บไว้ได้ 1-3 ปี ในขณะที่ไวน์ขาวที่เข้มข้นกว่าสามารถเก็บไว้ได้ 3-5 ปี ดังนั้นระยะเวลาที่คุณสามารถเก็บไวน์จะขึ้นอยู่กับประเภทของไวน์และเงื่อนไขในการจัดเก็
  • สปาร์คกลิ้งไวน์ที่ไม่ใช่เหล้าองุ่นมักจะต้องรับประทานทันทีหลังจากซื้อ และสามารถเก็บไว้ได้ 3 ถึง 4 ปี ขณะเดียวกันสปาร์คกลิ้งไวน์วินเทจซึ่งทำจากองุ่นที่เก็บเกี่ยวได้เพียงปีเดียว โดยทั่วไปสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าประมาณ 5 ถึง 10 ปี เนื่องจากมีคุณภาพสูงกว่า
  •  

แม้ว่าวิธีเก็บรักษาไวน์จะสมบูรณ์แบบแล้วก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องไม่ละเลยที่จะตรวจสอบไวน์เป็นประจำเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าไวน์ยังคงอยู่ในสภาพที่เหมาะสม ทั้งนี้ควรมองหาสัญญาณของการเน่าเสียหรือความเสียหาย เช่น การซึม ซึ่งอาจบ่งบอกถึงจุกไม้ก๊อกที่ชำรุดหรืออุณหภูมิในการเก็บรักษาสูงเกินไป เชื้อราบนไม้ก๊อกหรือขวดอาจทำให้เกิดความชื้นมากเกินไป นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสีของไวน์โดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะไวน์ขาวที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น สามารถส่งสัญญาณการเกิดออกซิเดชันได้ เมื่อเจอสัญญาณเหล่านี้อย่าตกใจ หากเป็นปัญหาด้านอุณหภูมิ ให้ปรับการตั้งค่าตู้แช่ไวน์ หากปัญหาเกี่ยวข้องกับขวดใดขวดหนึ่ง ให้แยกขวดออกจากขวดที่เหลือเพื่อป้องกันเชื้อราแพร่กระจาย และพิจารณาเปิดขวดเร็วขึ้นเพื่อตรวจสอบสภาพ

หากคุณต้องการเลือกไวน์ราคาดี สินค้าของ Liquid Therapy ไม่ว่าจะเป็น เบียร์ ไวน์ วอดก้า บุหรี่ คุณสามารถมั่นใจได้ 100% ว่าเป็นของแท้ บริการจัดส่งแอลกอฮอล์ทั่วไทย รับประกันหากสินค้าเสียหาย หรือมีปัญหาระหว่างการจัดส่ง สินค้าทุกตัวนำเข้าจากสิงค์โปร์และมาเลเซีย สามารถดูสินค้าของเราเพิ่มเติมได้ที่ https://liquidth.com      

ที่มาข้อมูล: https://www.stettyncellar.co.za

SHARE IT ON :

Facebook
Twitter
LinkedIn

depo 25 bonus 25

bonus new member

situs mahjong gacor

situs slot bet 100

camping jersey

slot pulsa

https://hfchurch.xsrv.jp/sbobet/

sbobet

sbobet

link slot

agen situs slot luar negeri https://golfcartscompany.com/slot-thailand/ gampang menang maxwin 500x